เขี่ยปินอยร่วงซีเกมส์! ช้างศึกกดฟิลิปปินส์ 2-0 ทะยานจ่าฝูงชั่วคราว

ศึกฟุตบอลกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 29 กลุ่มบี นัดสี่ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่สนาม มัจลิส เปอร์บันดารัน เซลายัง ประเทศมาเลเซีย เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ทีมชาติไทยซึ่งตอนนี้มี 7 คะแนน ล่าสุดเอาชนะ กัมพูชา 3-0 เกมนี้ วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชใหญ่มาในระบบ 4-2-3-1 โดยได้หมุนเวียนผู้เล่นกันหลายตำแหน่ง รวมถึงหมดสิทธิ์ใช้งาน ชัยวัฒน์ บุราญ ที่ติดโทษแบน ผู้รักษาประตูเป็น นนท์ ม่วงงาม แผงหลัง 4 ราย เควิน ดีรมรัมย์ เป็นแบ็กซ้าย พีฬาวัช อรรคธรรม เป็นแบ็กขวา คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ชินภัทร ลีเอาะ คู่กับ วรวุฒิ นามเวช ส่วนคู่กองกลาง นพพล พลคำ ร่วมกับ เชาว์วัตน์ วีระชาติ ขณะ ณัฐวุฒิ สมบัตืโยธา คอยสร้างสรรค์เกม แนวรุกฝั่งซ้าย ศศลักษณ์ ไหประโคน ฝั่งขวา มนตรี พรมสวัสดิ์หน้าเป้า สิทธิโชค กันหนู

มาร์ลอน มาโร กุนซือ ดิ อัซกาลส์ ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นจากสุดที่พ่ายเวียดนาม 4-0 แต่ยังคงแกนหลักไว้นำโดย คริสเตียน ลาปาส , ฆาเบียร์ อกุสติน และ ดิมิทรี ลิมโบ

เริ่มเกมเพียง 8 นาที ฟิลิปปินส์ ได้บุกครั้งแรกและเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ ดิราน เดอ บรุสเกอร์ แหวกแนวรับไทยเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านปาดหน้าประตูไป

น.16 ไทย ได้ลุ้นประตูจากการเติมเกมทางฝั่งซ้ายของ เควิน ดีรมรัมย์ ครอสไปในกรอบเขตโทษที่มี ณัฐวุฒิ สมบัติโยธาเตรียมเข้าฮอต แต่แผงหลังฟิลิปปินส์ตัดหน้าเคลียออกไว้ได้

น. 24 ฟิลิปปินส์ เกือบได้ประตูขึ้นนำสำเร็จเมื่อ ชินภัทร ลีเอาะ สกัดไม่ขาด ฆาเบียร์ อกุสติน เก็บบอลได้ก่อนสวนตัว นนท์ ม่วงงาม ชนเสาแรกไป

น. 28 หลังพยายามเจาะแนวรับ ฟิลิปปินส์ อยู่นาน ในที่สุด ไทยก็มาได้ประตูขึ้นนำสำเร็จเมื่อ ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้บอลจากทางกราบซ้ายหลุดตัวประกบก่อนครอสไปปากประตูเป็น มนตรี พรมสวัสดิ์ ทีได้โขกโล่งๆ ไทยนำ 1-0

น.38 ไทย ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากลูกฟรีคิกทางกราบขวาของ ศศลักษณ์ ไหประโคน บอลพุ่งตรงกรอบแต่แผงหลังฟิลิปปินส์ยังเคลียไว้ได้

น.42 ไทย หวิดได้ประตูทิ้งห่างเป็น 2-0 จากเตะบอลของ เควิน ดีรมรัมย์ บอลลอยโด่งผ่าน เรย์ โจเซป เข้าหัว ชินภัทร ลีเอาะ ติดแผงหลังฟิลิปปินส์ ก่อนตามซ้ำเหินข้ามคานไป

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งเวลาแรก ไทย มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-0 จากการเติมเกมรุกทางฝั่งซ้ายของ เควิน ดีรมรัมย์ แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนครอสไปในกรอบเขตโทษเป็น สิทธิโชค กันหนู วิ่งเข้าชาร์ตซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับบอลพุ่งผ่านมือ เรย์ โจเซป เข้าไปก่อนจะหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้

ก่อนเริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง ทีมชาติไทยทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก ส่ง ศฤงคาร พรหมสุภะ แทน พีฬาวัช อรรคธรรม

น. 50 ไทย ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากลูกฟรีคิกของทางฝั่งซ้ายของ เควิน ดีรมรัมย์ บอลลอยโด่งติดผู้เล่นฟิลิปปินส์เข้าหัว ชินภัทร ลีเอาะ โหม่งหลุดเสาสองไป

น.61 ไทย ต้องเปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองจากอาการบาดเจ็บ ส่ง พิชา อุทรา ลงสนามสนามแทน สิทธิโชค กันหนู 7 นาทีต่อมาไทยก็ต้องเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย เมื่อ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา เกิดตะคริวขึ้นเล่นต่อไม่ไหวส่ง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล

น.80 ไทย ได้บุกอีกครั้งจากจากวางบอลยาวของ มนตรี พรมสวัสดิ์ บอลลอยโด่งในกรอบเขตโทษเป็น ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ได้หลุดแต่โดนเบียดล้มลงไป โดยเวลาที่ในครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมต่างผลัดกันบุกและรับแต่ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกมไทยเอาชนะฟิลิปปินส์ 2-0 เก็บ 3 แต้มมีเพิ่มเป็น 10 คะแนนขึ้นรั้งจ่าฝูงชั่วคราว ส่วน ฟิลิปปินส์ ตกรอบร้อยเปอร์เซ็นเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับนัดสุดท้ายของทีมชาติไทยจะแข่งขันในวันที่ 24 สิงหาคม พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ณ สนาม มัจลิส เปอร์บันดารัน เซลายัง เวลา 15.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ทีมชาติไทย : นนท์ ม่วงงาม (GK):เควิน ดีรมรัมย์, พีฬาวัช อรรคธรรม (ศฤงคาร พรหมสุภะ น.45), วรวุฒิ นามเวช, ชินภัทร ลีเอาะ, เชาว์วัตน์ วีระชาติ ศศลักษณ์ ไหประโคน ,นพพล พลคำ , มนตรี พรมสวัสดิ์ , ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา(พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล น.68), สิทธิโชค กันหนู (พิชา อุทรา น.61)

ทีมชาติฟิลิปปินส์ : เรย์ โจเซป (GK), คริสเตียน ลาปาส, จูเลียน มาเรียโน, จอร์แดน แบลร์ ,นิมโรด บาลาบัต , จูเนลล์ มาร์ค, โจชัว เจค , คูน คูอิชิ ,ฆาเบียร์ อกุสติน ,ดิมิทรี ลิมโบ ,ดิราน เดอ บรุสเกอร์