นายกส.บอลตรวจดูความคืบหน้าศูนย์ฝึกฟุตบอลใหม่ที่ม.กรุงเทพธนบุรี

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เข้าชมและสำรวจ ความคืบหน้าการสร้างที่ทำการสมาคมฯ, ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ สนามฟุตบอลหญ้าจริง และสนามฟุตบอลหญ้าเทียม รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

โดยการตรวจความคืบหน้าครั้งนี้ประกอบไปด้วย ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, ประธานโครงการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทย, นายพีระ จันทร ผู้อำนวยการสำนักกีฬามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, คุณแอนนี่ เบญจาทิกุล รองประธานโครงการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทย และนายธัชพล ธิติวัชร เลขานุการสำนักประธาน มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชน เข้าร่วมด้วย

โดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลอห่งประเทศไทย กล่าวว่า “วันนี้ได้มาเยี่ยม มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เพื่อมาดูความคืบหน้าในการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ศูนย์ฝึกแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยทางมหาวิทยาลัยให้ความเอื้อเฟื้อเรื่องสถานที่ทำงานและก่อสร้างสนามฟุตบอล”

“สนามฟุตบอลประกอบไปด้วยสนามหญ้าจริง 1 สนาม และ สนามหญ้าเทียม 1 สนาม และสนาม 7 คนอีกสนาม และทางผู้บริหารของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ให้ความกรุณาสร้างสนามฟุตบอลชายหาดแบบทันสมัยอีก 1 สนาม นี่เป็นความร่วมมือ สาเหตุที่ทางสมาคมฯต้องมาหาความร่วมมือจากภาคเอกชน เพราะว่า เรามีนโยบายที่จะสร้างศูนย์ฝึกเพื่อที่จะทำให้การฝึก การสอนโค้ชและทีมงานแก่นักกีฬาฟุตบอลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่นี่จะเป็นสถานที่ฝึกนักฟุตบอลเยาวชน ภายใต้ความรับผิดชอบของ บริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส”

“ในอนาคตเมื่อที่นี่มีสนามฝึก และ สนามฟุตบอลครบถ้วนสมบูรณ์ นักกีฬาทีมชาติทุกรุ่นทุกอายุจะมาเก็บตัวที่นี่ เพราะที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งหอพัก ที่มี 40-120 ห้อง และมีบรรยากาศที่เหมาะสมกับการเก็บตัว ขณะเดียวกันอาคารทำงาน ทางมหาวิททยาลัยก็อนุญาตให้นักกีฬาทีมชาติใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งห้องฟิตเนส ห้องสปา หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆที่เป็นของมหาวิทยาลัย ห้องฟิตเนสมีความสมบูรณ์ มีอุปกรณ์ทันสมัย แต่ไม่ใช่แค่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพียงสมาคมฯเดียว ยังมีสมาคมมวยและแบดมินตัน”

“ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ-ธนบุรี เสียสละให้กับทุกกีฬา ผมเชื่อว่าสถานที่นี้จะเป็นสถานที่ที่ช่วยพัฒนากีฬาฟุตบอลและกีฬาอีกหลายประเภทให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น สนามแบดมินตันที่นี่ก็มีเยอะมาก และนักกีฬาทีมชาติก็มาเก็บตัวที่นี่เยอะมาก โดยนักกีฬาที่มาที่นี่จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น”

“ขณะที่ความร่วมมือ ระหว่างสมาคมฯ กับ มหาวิทยาลัย เราจะร่วมกันออกค่าใช้จ่ายคนละ 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสนามฟุตบอลและออฟฟิศสำนักงาน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในวงการกีฬาฟุตบอล เรากำลังมีศูนย์ฝึกที่ดีที่ทันสมัย ทางออฟฟิศสำนักงานนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะที่สนามหญ้าจริง หญ้าเทียม และสนาม 7 คน น่าจะเสร็จทันก่อนที่ท่านประธานฟีฟ่า และ เอเอฟซี จะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อร่วมงาน AFC Annual Award ในวันที่ 29 พฤศจิกายน เมื่อเราเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ที่นี่จะเป็นศูนย์กลางการเก็บตัวของทีมชาติไทยต่อไป”

“ส่วนของที่เขาใหญ่ ผมได้ทำหนังสือยกที่ดินให้กับทางสมาคมฯ แล้ว ขณะที่ ผมขอใช้ที่ดินของทางราชการได้ทำหนังสือถึง พณฯท่าน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำที่ดินว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์ ผมอยากให้เงินหรือเม็ดเงินที่ลงทุนไปนั้นอยู่บนผืนดินของทางราชการ แต่ที่ดินบางประเภทไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ผมพร้อมยกที่ดินส่วนตัวให้ แต่ขอเลือกที่ดินหลวงก่อน เพื่อให้หมดข้อครหา”

สำหรับศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เกิดจากการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, โรงพยาบาลตำรวจ และบริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส (Ekkono Method Soccer Services) เพื่อตั้งเป้าผลิตนักเตะเยาวชนก้าวสู่ระดับชาติ ตามสไตล์ “Thailand’s Way” สู่เป้าหมายฟุตบอลโลก 2026