จากลีกเอิงสู่ซูเปอร์สตาร์ ! คาร์ลอส เบียงคี

ดาวเตะอาร์เจนไตน์ยิง 179 ประตู จาก 220 นัด ตลอดชีวิตค้าแข้ง ด้วยความสำเร็จด้านการคุมทีมของเขา ทำให้ความสำเร็จในสมัยเป็นนักเตะถูกลดบทบาทลงไป

“ผมเข้ามาดั่งราชา และจากไปเยี่ยงตำนาน” เป็นคำพูดของซลาตัน อิบราฮิโมวิชที่กล่าวหลังทิ้งสี่ฤดูกาลอันสุดยอดกับสโมสรไว้เบื้องหลัง ด้วยการยิงได้ 2 ประตูในเกมพบน็องต์ และผลงานของเขาทำลายสถิติในตำนานที่คงกระพันมานานเกือบ 40 ปี สถิติดังกล่าวเกิดขึ้นจากนักเตะที่อาจเรียกได้ว่าเป็นตำนานคนแรกของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

เพียงแค่ 8 ปีหลังจากเริ่มต้นก่อตังสโมสร ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ คาร์ลอส เบียงคี ทำได้ทั้งสิ้น 37 ประตูในฤดูกาล 1977-78 ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในวันที่เปแอสเชยังไม่ได้รับการยอมรับในวงการลูกหนังยุคโมเดิร์น

ขณะที่ซลาตันพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยสถิติลีกเอิง 96 แต้ม เหนืออันดับสองอย่างลียง 31 คะแนน ฤดูกาลที่เบียงคีทำสถิติของตัวเขาเองกลับจบลงด้วยความล้มเหลวเมื่อเปแอสเชทำได้เพียง อันดับที่ 11 เมื่อจบฤดูกาล

เบียงคีคือปรากฏการณ์ของลีกเอิง ยิงได้ 179 ประตู จาก 220 นัดเบียงคีถือกำเนิดในครอบครัวชนชั้นกลาง บริเวณแถบตะวันตกของบัวโนส ไอเรส ตอนสมัยยังเด็ก เขาต้องช่วยพ่อขายหนังสือพิมพ์ก่อนกลายเป็นนักเตะอาชีพกับเบเลซ ซาร์สฟิลด์

ด้วยพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม เบียงคีได้ประเดิมสนามฐานะนักเตะอาชีพครั้งแรกในวัย 18 ปี ในเกมที่เบเลซพบโบคา จูเนียร์ส สโมสรซึ่งต่อมาเขาได้สร้างชื่อในฐานะโค้ช

เบียงคียิงได้มากกว่า 100 ประตูตลอด 6 ปีกับสโมสร ได้เป็นดาวซัลโวของลีก 3 สมัย รวมถึงเคยพาทีมได้แชมป์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสร
จากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้ Stade de Reims สโมสรในฝรั่งเศส ยื่นข้อเสนอที่เบเลซไม่อาจปฏิเสธได้เมื่อปี 1973 เบียงคีตอบสนองศรัทธาของพวกเขาด้วยการยิง 30 ประตู จาก 33 นัดในฤดูกาลแรกกับสโมสร

จนถึงปี 1977 เบียงคีกลายเป็นดาวซัลโวลีกเอิงถึง 3 ครั้ง กับสโมสรซึ่งจบฤดูกาลด้วยอันดับ 13, 11, 5 และ 11 ตามลำดับ
เขาทำได้อีก 2 ครั้งในสองฤดูกาลกับปารีส ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอีกเพียงคนเดียวนอกจาก ฌอง ปิแอร์ ปาแปง ที่เคยเป็นดาวซัลโวลีกเอิงได้ถึง 5 สมัย

ในปี 1980 เบียงคีอำลาดินแดนฝรั่งเศสเพื่อกลับไปเล่นให้เบเลซ และทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลอันดับ 8 ของลีกเอิง แม้จะไม่ได้แชมป์ใดๆ ในฝรั่งเศส แต่ผลงานของเขาก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในลีกเอิง

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางในฐานะโค้ช ด้วยการพาเบเลซได้แชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ครั้งแรกและครั้งเดียวของสโมสร ก่อนจะคว้าแชมป์รายการนี้ได้อีก 3 สมัยกับโบคา จูเนียร์ส ทำให้เขากลายเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรายการนี้

นอกจากนี้ เขายังคว้าแชมป์สโมสรโลกได้อีก 3 ครั้ง ด้วยการเอาชนะมิลานทั้งสมัยคุมเบเลซและโบคา รวมถึงพาโบคาเอาชนะทีมเรอัล มาดริด ยุคกาลาคติกอส ที่มีซีเนดีน ซีดาน, หลุยส์ ฟิโก้ และดาวดังอีกมากมายในปี 2000

และนั่นคือตำนานของเบียงคี ผู้ยอดเยี่ยมจากผลงานทั้งในและนอกสนาม